ประสบการณ์ความตาย ของ เบทานี อาร์
|
Experience description:
สิ่งที่ดิฉันเริ่มสังเกตออกได้ก็คือ ความรู้สึกสงบเงียบอันบริสุทธิ์และสุขใจที่จะกล่าวถึงได้ ดิฉันเริ่มเห็นผู้คนจำนวนมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของดิฉัน และแล้วก็ดูเหมือนว่า มันกำลังย้อนหลังไปอดีต ความรู้สึกต่อมาก็คือ มันดูเหมือนว่า ดิฉันกำลังเดินไปสถานที่ค่อนข้างมืดสนิท ซึ่งเป็นสถานที่เล่นกลางแจ้งอันกว้างใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือของดิฉัน ส่วนด้านขวามือของดิฉันก็เป็นสวนไม้อันรื่นรมย์ ดิฉันมีความสงบเยือกเย็นและรื่นรมย์ใจมาก จนไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็นตัวอักษรได้ ฉันเริ่มมองดูผู้คนจำนวนมากมายที่อยู่เรียงรายรอบข้างของดิฉัน ต่างพูดกันด้วยเสียงอันค่อย จนถึงขั้นกระซิบเบาๆกันเองว่า “ที่นี่คือที่ไหน มันคืออะไร ทำไมฉันจึงมาอยู่ที่นี่ได้” และฉันก็รู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่เกิดจากความฝันของฉันแต่อย่างไร มันช่างเป็นสถานที่เหมือนกับสถานที่ที่มีอยู่จริงๆเลย ฉันรู้ดีว่า ฉันไม่สามารถจะกลับไปได้อีกแล้ว และฉันก็รู้ว่า ตัวฉันไม่ได้อยู่เปล่าเปลี่ยวคนเดียว แต่ฉันรู้ว่า ฉันอยู่ท่ามกลางคนที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว มันดูน่าตื่นเต้นมากเลยนะ ที่ได้ยินเสียงคนพูดกันด้วยภาษาพูดที่แตกต่างกันมากมายหลายภาษา และก็น่าแปลกใจที่ฉันสามารถเข้าใจถึงภาษาที่เขาพูด ฉันเลยลุกไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง เพราะยังไม่อยากที่จะสนทนากับผู้อื่น และมองออกไปยังสวนที่สวยงามทั้งสีสดใสด้านนอก ซึ่งฉันก็ไม่เคยได้เห็นสีอันสวยงามแบบนี้มาก่อนเลย และพลัน ฉันก็รู้สึกว่า กลับมายังสถานที่มืดมิดอีกครั้งหนึ่ง ฉันมีความกลัวมาก ก็ได้แต่ร้องตะโกนด้วยเสียงอันดังกึกก้องว่า “อย่า อย่า อย่า ฉันไม่ต้องการจากที่นี่ไป ได้โปรดเถิด” ท่ามกลางความมืดและความกลัวแบบสุดๆของฉัน ฉันรู้ตัวว่า ฉันจะต้องกลับมายังชีวิตเดิมของฉันอีก ฉันรู้สึกอึดอัด อัดอั้นตันใจ ไม่พอใจมากที่ฉันจะต้องกลับมาบนโลกใบนี้อีก ขณะนั้น ตัวของฉันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อไคล และก็ได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลพูดเกี่ยวกับตัวอุณหภูมิที่สูงมากในตัวของฉัน โดยหัวใจของฉันเต้นถึงระดับ 200 ครั้งต่อนาที และแล้ว ฉันก็เริ่มต้นร้องไห้ด้วยความกลัวที่จะต้องกลับมาอีก ทั้งร้อนทั้งอึดอัด และเกิดความเจ็บปวดที่บริเวณ อก แขน และ ลูกนัยน์ตา ตัวฉันยังตระหนักว่า ฉันยังมีลูกเล็กๆคนหนึ่งที่ยังทิ้งอยู่เบื้องหลังที่บ้าน ซึ่งฉันรู้สึกว่า ฉันยังไม่สนใจหรือห่วงใยในตัวลูก เพราะฉันได้มาอยู่ ณ ที่แสนวิเศษตรงนี้ ฉันไม่สนใจหรือมีความเยื่อใยต่อลูกของฉัน เพราะฉันรู้ว่าฉันได้ตายไปแล้ว นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันไม่ได้สนใจต่อลูกของดิฉันขณะนั้น