แค๊ตทาลีนเอ ประสบการณ์ความตาย หมายเลข 7109
|
Experience description:
ดิฉันขอพยายามอธิบายให้เข้าใจถึงคำถามต่างๆ และต้องขอโทษดูที่เรื่องที่ดิฉันกำลังเล่าอยู่นี้ ดูเหมือนมันจะแปลกๆนะ มันช่างเจ็บปวดเสียเหลือเกินเหมือนร่างกายถูกมีดบาดปานนั้น ดิฉันต้องผ่านพ้นช่วงเวลาของความเจ็บปวดอันนั้น ดิฉันต้องยอมรับว่า ตัวดิฉันไม่ใช่นักเขียนหรือนักประพันธ์แต่อย่างไร แต่ดิฉันก็ต้องการเล่าประสบการณ์และถ่ายทอดให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย ขณะนั้นดิฉันอายุเพียง 11 ปี คุณหมอได้บอกกับคุณแม่ของดิฉันว่า ดิฉันเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด ในช่วงสมัยนั้น การผ่าตัดเรื่องนี้ ยังไม่มีผู้ชำนาญ เป็นเพียงอยู่ระหว่างการทดลองเท่านั้น ช่วงที่ผ่าตัดเป็นปี คศ 1971 ดิฉันต้องไปพำนักอยู่ที่โรงพยาบาลเด็กแห่งเมืองบอสตันเป็นระยะเวลา ระหว่าง 8 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งดิฉันก็ยังจำระยะเวลาได้ไม่แน่นอน เมื่อฉันกลับมาบ้าน ร่างกายของฉันดูเหมือนโบกหรือต่อร่างกายเป็นท่อนๆเลย
ในการผ่าตัดครั้งแรก ดิฉันถึงแก่ความตายจากการผ่าตัดครั้งแรกนี้ ฉันจำได้ว่า ฉันฟื้นตื่นขึ้นมาจากห้องไอซียู โดยพบว่า มีคุณแม่นั่งเฝ้าดิฉันอยู่ข้างๆเตียง ดิฉันได้เล่าเรื่องของดิฉันให้ท่านฟังว่า ระหว่างรับการผ่าตัด ดิฉันได้ยินเสียงคุณหมอที่กำลังผ่าตัดดิฉันว่า คนไข้ไม่ตอบสนองเลย ดิฉันเห็นพวกหมอกำลังผ่าตัด ดิฉันได้ยินเสียงที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ แต่ดิฉันพยายามที่จะพูด แต่ก็พูดอะไรไม่ออกเลย ดิฉันกลัวมาก ถึงกับต้องเบือนใบหน้าหนีไปจากพวกเขา
แล้วดิฉันก็พบว่า ตัวดิฉันกำลังเดินอยู่ภายใต้คลื่นยักษ์ แต่ก็น่าแปลกใจเลยที่ดิฉันไม่รู้สึกว่าตัวดิฉันเปียกน้ำเลย ดิฉันได้มีโอกาสเห็นสายรุ้งที่สวยงามมากสุดพรรณนา ในขณะที่เดินอยู่ภายใต้คลื่นนั้น มันช่างมีความสุขเหลือเกิน ไม่มีความเจ็บปวดใดๆเกิดขึ้นกับดิฉันเลย ดิฉันรู้สึกยินดีมากที่ได้มาอยู่ ณ สถานที่นี้ มันช่างมีความสุขเหลือเกิน และแล้วดิฉันก็สังเกตเห็นผู้หญิงวัยชราคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าของดิฉัน ดิฉันได้แต่เห็นด้านหลังของผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น เธอมีผมเป็นลอนสีเทา และรูปร่างผอมบาง ดิฉันรู้ว่ามีคนอยู่ในบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก แต่ว่าพวกเขาไม่มีตัวตน ดิฉันรับรู้แต่เพียงว่า พวกเขาอยู่รอบๆตัวของดิฉันเท่านั้น แม้แต่ทุกวันนี้ดิฉันก็ยังมีความรู้สึกนั้นอยู่เลย ดิฉันได้ยินเสียงเธอพูดกับดิฉันว่า เร็วเข้า ฉันมีเรื่องที่จะต้องคุยกับเธออีกมากมาย เมื่อดิฉันเดินเข้าไปใกล้ตัวเธอ และเธอเริ่มหันกลับมา ดิฉันก็ต้องตกใจแทบช๊อก เพราะว่า เธอมีใบหน้าเหมือนฉันทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นตา จมูก เส้นผม ก็เหมือนกัน เพียงแต่ว่า เธอดูจะมีอายุมากกว่าดิฉันมาก เธอบอกดิฉันว่า เธออายุ 84 ปีแล้ว เธอพูดกับดิฉันว่า “แค๊ตเธอรีน เธอยังมาไม่ได้นะตอนนี้” ดิฉันจำได้ว่า ดิฉันเริ่มร้องไห้ออกมา ดิฉันบอกเธอว่า ดิฉันไม่ต้องการอาศัยอยู่ในร่างกายนี้ เนื่องจากมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ดิฉันก็ถามเธอต่อไปว่า เธอมีร่างกายอื่นให้ดิฉันไหม แล้วดิฉันก็มองไปที่ลูกนัยน์ตาของเธอ ซึ่งดูเหมือนว่า ดิฉันกำลังมองดูดวงดาวนับล้านๆดวงในท้องฟ้าประการนั้น เธอบอกกับดิฉันว่า ดิฉันยังจะต้องอาศัยอยู่ในร่างกายเดิมนี้อีก แต่ร่างกายนี้ จะไม่ทำให้เธอเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว เธอจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และเธอยังมีงานที่ต้องทำอีกมากก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่ เธอบอกดิฉันว่า ดิฉันยังตายไม่ได้ ดิฉันจะมีอายุถึง 84 ปีจึงจะตาย ยังมีผู้อื่นที่ต้องการความช่วยเหลือจากตัวดิฉัน และดิฉันก็ต้องไปช่วยเหลือผู้อื่นด้วย เป็นสิ่งที่ดิฉันได้บอกกับคุณแม่ของดิฉันด้วย และดิฉันต้องไปช่วยเหลือผู้คนเพื่อหาพรสวรรค์ในแต่ละบุคคล ซึ่งแต่ละคนก็มีพรสวรรค์ของตัวเองอยู่แล้ว โดยที่ตัวดิฉันเองก็มีพรสวรรค์ที่จะไปช่วยค้นหาพรสวรรค์ของคนอื่น เธอบอกดิฉันว่า ดิฉันยังต้องมีงานที่จะต้องทำอีกมากมาย ขอให้ดิฉันหันหลังและกลับไปเถิด
ดิฉันทำตามที่เธอบอกแล้วก็กลับมาเห็นคุณหมอหลายคนในห้องกระจกใหญ่มากห้องหนึ่ง โดยที่คุณหมอเหล่านั้น กำลังทำการผ่าตัดให้ดิฉันอยู่นั่นเอง โดยที่ดิฉันสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกและความนึกคิดของพวกเขา ดิฉันจำได้ว่า มีคุณหมอคนหนึ่งที่ได้ระบุว่า การผ่าตัดครั้งนี้ เป็นเสมือนการทดลองเหมือนกับการเอาหมูมาทดลอง เขารู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้มากที่ต้องสูญเสียชีวิตคนไข้ไป พวกเขาเอาสกรูมาขันบนศีรษะของดิฉัน เอาเข็มมาปักลงบนขาของดิฉัน ท่ามกลางความคิดของดิฉันมีแต่ความคิดในแง่ลบทั้งสิ้น
ดิฉันบอกคุณแม่ว่า ดิฉันไม่ต้องการเป็นหมูสำหรับทดลอง ซึ่งคุณแม่ก็แปลกใจว่า ดิฉันไปได้ยินคำนี้มาจากไหน
ดิฉันเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนมีพรสรรค์ของตัวเองอยู่ เพียงแต่ว่า มันค่อยๆเลือนหายไปจากการดำรงชีวิตในประจำวัน ดิฉันยืนยันว่า ดิฉันจะไม่ลืมประสบการณ์ครั้งนี้ในชีวิตเลย
รัก จาก แค๊ตทารีน